ปีนี้นับเป็นปีที่ได้รับความสนใจจากบริษัทต่างๆ เป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าแข่งขันมากที่สุดนับตั้งแต่จัดการแข่งขัน FuelWatch มา เป้าหมายของการจัดการแข่งขันคือ ช่วยพัฒนาขีดความสามารถของคนขับรถ พัฒนาเรื่องของฟฤติกรรมที่ถูกต้องในการใช้รถใช้ถนน และร่วมรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีปรัชญาของการจัดแข่งขัน FuelWatch เพื่อให้เหล่าพนักงานขับรถของวอลโว่ทรัคส์ได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่งของพนักงานขับรถวอลโว่ทรัคส์ ซึ่งประกอบด้วย 1.การรักษาสิ่งแวดล้อม 2.ความปลอดภัย 3.วินัยในการขับขี่
Volvo Trucks กล่าวว่าการรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นเป้าหมายหลักที่แฝงไว้กับเป้าของการแข่งขันที่ใช้การประหยัดพลังงานเป็นตัวชี้วัด โดยผู้ชนะจะต้องทำอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ต่ำที่สุด ซึ่งจากการศึกษาของวอลโว่ กรุ๊ป พบว่าปัจจุบันธุรกิจขนส่งทั่วโลก รถบรรทุกมีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้โลกของเราถึงร้อยละ 6 ของอัตตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดของทุกภาคส่วนทั่วโลก ดังนั้น หากพนักงานขับรถสามารถขับรถอย่างมีวินัย ผนวกกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์วอลโว่ ทรัคส์ และเทคโนโลยียานยนต์ของวอลโว่ ทรัคส์ โดยเฉพาะเกียร์อัจฉริยะ I-Shift ที่จะทำงานร่วมกับสมองกลในการปรับใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับสภาพการขับขี่บนท้องถนนที่พนักงานขับรถกำลังควบคุมอยู่ ณ ขณะนั้น จะทำให้การใช้น้ำมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเท่ากับการช่วยลดมลพิษที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเผาผลาญพลังงานในภาคการขนส่งทางบก
ในธุรกิจการขนส่ง หากสามารถนำวิธีการขับที่ถูกต้องซึ่งสามารถทำให้ประหยัดน้ำมันไปใช้กับการดำเนินการได้ จะเกิดอะไรขึ้น สำหรับต้นทุนในภาคการขนส่งนั้นต้นทุนค่าพลังงานสูงถึง 50% จากต้นทุนทั้งหมด นั่นย่อมหมายความว่าหากผู้ประกอบการหันมาให้ความสำคัญและใส่ใจในการพัฒนาทรัพยากรคนขับรถให้มีวินัยและยึดถือเรื่องการขับขี่อย่างถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญ นั่นย่อมหมายถึงการสามารถลดต้นทุนต่อปีได้จำนวนมากเลยทีเดียว
Asian Trucker (Thailand) มีโอกาสได้คุยกับผู้ชนะในปีที่ผ่านมาก่อนที่ผลการตัดสินในปีนี้จะประกาศขึ้น พิพัฒน์ มะลิพันธ์ จากบริษัท เค เอ เอฟ อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด “ปีที่แล้วก็เข้มข้นไม่แพ้ปีนี้ครับ หลังจากชนะในประเทศไทยผมไปแข่งที่ออสเตรเลียได้ที่หนึ่งของเอเซียครับ” แน่นอนว่านั่นย่อมเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ เราสังเกตุเห็นถึงความสุขที่แสดงออกผ่านสีหน้าและแววตาเมื่อพูดถึงความสำเร็จของ พิพัฒน์ มะลิพันธ์
ในปีนี้ผูสมัครเข้าแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นถึง 120 คน ด้านหนึ่งย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการขนส่งมีความตื่นตัวในเรื่องการขับขี่ประหยัดน้ำมันเพิ่มมากขึ้น เล็งเห็นถึงการพัฒนาศักยภาพของพนักงานขับรถของตนเองมากขึ้น รถที่ดีเมื่อได้คนขับที่ดีมีความรู้ความเข้าใจศักยภาพของรถ มีวินัย มีความรับผิดชอบ ผู้ประกอบการย่อมสามารถลดต้นทุนในการดำเนินการได้ การแข่งขันในปีนี้ยังมีการแข่งขันแบบประเภททีมด้วย มร.ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราเล็งเห็นว่านอกเหนือจากการแข่งขันเพื่อเฟ้นหานักขับที่ดีที่สุดแล้ว เรายังต้องการให้พนักงานขับรถที่ผ่านเข้าสู่รอบลึก ๆ สามารถทำงานกันเป็นทีมด้วย เราจึงเห็นว่ารางวัลประเภททีมนั้น จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันมีประสบการณ์ในการทำงานเป็นทีมด้วย”
จาก 24 คน คัดจนเหลือ 4 คนแข่งขันกันในรอบสุดท้ายในบ่ายวันเสาร์ ที่สภาพอากาศมีทั้งแดดจัดและฝนตกหนักบนสภาพเส้นทางจริงเสมือนกำลังวิ่งเพื่อขนส่งสินค้าไปสู่ปลายทาง โดยทุกคนขับรถหัวลากของ Volvo รุ่นเดียวกัน ลากน้ำหนักท้ายชนิดเดียวกันในปริมาณที่เท่ากันใครจะสามารถทำได้ดีกว่ากัน
หลังจากขับเคี่ยวกันอย่างสูสี การแข่งขัน Volvo Fuel Watch 2014 ผู้ชนะเลิศได้แก่คุณเจริญ ศรีบุญเรือง ตัวแทนจากบริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) คว้ารางวัลมูลค่ารวม 400,000 บาท รวมทั้งเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเดินทางไปแข่งขัน Volvo Trucks Fuel Watch World Final 2014 ณ ประเทศสวีเดน ก่อนการประการผลรางการแข่งขัน Asian Trucker มีโอกาสพูดคุยกับคุณเจริญสั้นๆ เราถามว่าเป็นอย่างไรบ้างกับการขับในรอบสุดท้าย คุฯเจริญ บอกว่า “ตื่นเต้นเล็กน้อยครับ แต่ก็มั่นใจนะครับ” คุณเจริญเป็นคนขับคนเดียวจากทั้งสี่คนที่เราได้คุยก่อนที่จะทราบผล และในค่ำคืนนั้น(16ส.ค.57)เมื่อผลการประกาศออกมาปรากฏว่าคุณเจริญ ศรีบุญเรือง จากบริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) เป็นผู้ที่สามารถคว้าชัยชนะไปได้